Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3, 1, 553-572

Realizing the importance of assessment as a tool for the improvement of education, The National Institute of Educational Testing Service sought to assess Thai students’ knowledge by using the Ordinary National Educational Test (O-NET) so that the quality of Thai educational system can be evaluated. However, previous studies pointed that the O-NET had strong negative washback effects or impact on the curriculum. Therefore, this study investigated the core beliefs of English language teachers about the...

การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยทางประชากรศาสตร์ รวมทั้งผลกระทบของส่วนประสมทางการตลาดบริการ (7Ps) ที่มีต่อความตั้งใจใช้เข็มให้สารน้ำชนิด Safety เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกใช้เข็มให้สารน้ำชนิดเซฟตี้ของพยาบาลโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานครสำหรับนำไปใช้เป็นแนวทางในการจัดทำกลยุทธ์ทางการตลาดได้ การศึกษานี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณที่รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์จากกลุ่มตัวอย่างพยาบาลในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยที่ปฏิบัติงานด้านการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ โดยการใช้วิธีสุ่มแบบตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณผลการวิจัยที่ได้จากแบบสอบถามที่สมบูรณ์จำนวน 259 ชุด พบว่า ปัจจัยด้านประชากรไม่มีผลต่อการตัดสินใจใช้เข็มให้สารน้ำชนิดเซฟตี้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 เมื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดบริการที่มีผลต่อความตั้งใจใช้เข็มให้สารน้ำชนิดเซฟตี้ของพยาบาลนั้นพบว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความตั้งใจใช้เข็มให้สารน้ำชนิดเซฟตี้ ได้แก่ ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านบุคลากรหรือพนักงานขาย และด้านราคา ตามลำดับ ส่วนปัจจัยด้านการส่งเสริมการขาย ด้านกระบวนการ และด้านลักษณะทางกายภาพนั้นไม่มีผลต่อความตั้งใจใช้เข็มให้สารน้ำชนิดเซฟตี้ของพยาบาลโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยในกรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบการรับรู้บุคลิกภาพและภาพลักษณ์รองเท้าฟุตบอลจากนักกีฬาฟุตบอลสมัครเล่นในกรุงเทพมหานคร โดยตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักกีฬาฟุตบอลสมัครเล่นในกรุงเทพมหานคร จำนวน 401 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือใน การเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติเชิงพรรณนาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติเชิงอนุมาณที่ใช้เพื่อทดสอบสมมติฐานคือ F-Test ผลการวิจัยพบว่า นักกีฬาฟุตบอลสมัครเล่นที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีอายุ 21 – 25 ปี มีระดับการศึกษาปริญญาตรี สถานภาพโสด อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีรายได้ตั้งแต่ 20,001 -30,000 บาท ส่วนใหญ่มีตำแหน่งการเล่นเป็นกองหลัง แบรนด์ที่นักกีฬาฟุตบอลสมัครเล่นเลือกซื้อมากที่สุดคือ รองเท้าฟุตบอล Adidas และมีแบรนด์รองเท้าที่ใช้บ่อยที่เป็นรองเท้าฟุตบอล Nike ผลการวิจัยการรับรู้ทางด้านบุคลิกภาพตราสินค้าพบว่า นักกีฬาฟุตบอลสมัครเล่นในกรุงเทพมหานครที่ใช้รองเท้าฟุตบอลแบรนด์ Nike Adidas Puma Mizuno และ Pan มีการรับรู้บุคลิกภาพตราสินค้าที่แตกต่างในทุกด้านคือ ด้านความจริงใจ (Sincerity) ด้านความตื่นเต้น (Excitement) ด้านความสามารถ (Competence) ด้านความแข็งแรง (Ruggedness) ด้านความดึงดูดใจ (Attractiveness) ด้านนวัตกรรม (Innovation) ด้านความเคลื่อนไหว (Activity) และด้านความโก้หรู (Sophistication) เมื่อแยกวิเคราะห์ผู้ใช้แต่ละแบรนด์ พบว่า ผู้ใช้แบรนด์ Nike มีการรับรู้บุคลิกภาพตราสินค้าด้านความดึงดูดใจ (Attractiveness) มากที่สุด และด้านความแข็งแรง (Ruggedness) น้อยที่สุด ผู้ใช้แบรนด์ Adidas...

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความคาดหวังและความพึงพอใจของผู้ใช้บริการ ธุรกรรมการเงินบนโทรศัพท์มือถือโดยตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้ใช้บริการธุรกรรมการเงินบน โทรศัพท์มือถือ จำนวน 530 คน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติเชิง พรรณนาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติเชิงอนุมานที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานประกอบด้วย t-Test F-Test และ Paired-Samples t-Test ผลการวิจัยด้านความคาดหวังของผู้ใช้บริการธุรกรรมการเงินบนโทรศัพท์มือถือพบว่า เพศมีความคาดหวังที่แตกต่างกันในด้านความเชื่อมั่น ยกเว้นด้านการตอบสนองความต้องการด้าน การเข้าถึงบริการ และด้านความปลอดภัย ส่วนผู้ใช้ที่มีอายุแตกต่างกันพบว่ามีความคาดหวังแตกต่าง กันในด้านความเชื่อมั่นและด้านการเข้าถึงบริการ ยกเว้นด้านการตอบสนองความต้องการและด้าน ความปลอดภัย นอกจากนี้ ผู้ใช้ที่มีสถานภาพ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อดือน และโมบาย แบงค์กิ้งที่ใช้ที่แตกต่างกัน มีความคาดหวังที่แตกต่างกันในทุกด้าน ส่วนผลการวิจัยด้านวามพึงพอใจ ของผู้ใช้บริการธุรกรรมการเงินโทรศัพท์มือถือพบว่า เพศมีความพึงพอใจแตกต่างกันทุกด้าน ผู้ใช้ที่มี อายุแตกต่างกันมีความพึงพอใจแตกต่างกันในด้านความเชื่อมั่นและความปลอดภัย ยกเว้นด้าน การตอบสนองความต้องการและการเข้าถึงบริการ ในส่วนของสถานภาพที่แตกต่างกัน ผู้ใช้บริการมี ความพึงพอใจแตกต่างกันในด้านความเชื่อมั่น ด้านการเข้าถึงบริการและด้านความปลอดภัย ยกเว้น ด้านการตอบสนองความต้องการ นอกจากนี้ผู้ใช้ที่มีระดับการศึกษา อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน และ โมบายแบงค์กิ้งที่ใช้ที่แตกต่างกันมีความพึงพอใจแตกต่างกันทุกด้าน ส่วนผลการวิจัยใน การเปรียบเทียบความคาดหวังกับความพึงพอใจ พบว่า ความคาดหวังและความพึงพอใจของ ผู้ใช้บริการมีความแตกต่างกันในด้านความเชื่อมั่น ด้านการเข้าถึงบริการ และด้านความปลอดภัยยกเว้นด้านการตอบสนองความต้องการ

๋Journal of Current Science and Technology, 13, 1, i-iii

การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการการตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยความต้องการซื้อกล้องวงจรปิด แหล่งข้อมูลที่ผู้บริโภคใช้ในการเสาะหาข้อมูล เกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดและรูปแบบในการประเมินทางเลือกของผู้บริโภคที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 400 คน โดยมีการสุ่มตัวอย่างแบบโควต้า โดยใช้สัดส่วนการเก็บข้อมูลจากจำนวนของแต่ละเขต สถิติที่ใช้ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวน ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มตัวอย่าง 364 คนมีความต้องการซื้อกล้องวงจรปิดคิดเป็นร้อยละ 91 ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ต้องการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อใช้เป็นหลักฐานในกรณีที่มีการโจรกรรม แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการซื้อกล้องวงจรปิดส่วนใหญ่มาจากการสอบถามผู้ที่เคยติดตั้งกล้องวงจรปิดมากที่สุด ราคา เป็นเกณฑ์ที่ใช้ในการตัดสินใจซื้อกล้องวงจรปิดมากที่สุด รองลงมาคือ คุณภาพและ ความคมชัดของกล้อง และผู้บริโภคใช้การเปรียบเทียบราคากับตราสินค้าเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจซื้อมากที่สุด ผลการวิเคราะห์ความแปรปรวน ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 พบว่า ปัจจัยด้านลักษณะที่พักมีผลต่อราคาของกล้องวงจรปิด อย่างมีค่านัยสำคัญทางสถิติ อายุและการศึกษามีผลกิจกรรมการส่งเสริมทางการตลาดอย่างมีค่านัยสำคัญทางสถิติ 0. 05

งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอิทธิพลของปัจจัยเชิงสาเหตุและปัจจัยทางสังคมที่ส่งผล ต่อความตั้งใจซื้อซ้ำอาหารคลีนของผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาคือผู้บริโภคที่เคยซื้ออาหารคลีนรับประทานจำนวนทั้งหมด 404 คน โดยใช้แบบสอบถามที่ผ่าน การตรวจสอบความเที่ยงเชิงเนื้อหา เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลใช้วิธีวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยันและการตรวจสอบความสอดคล้องของแบบจำลองความตั้งใจซื้อซ้ำอาหารคลีนด้วยการวิเคราะห์เส้นทาง ผลการวิจัยพบว่า ความคาดหวังของลูกค้ามีความสัมพันธ์กับการรับรู้คุณภาพของอาหารคลีน โดยมีประสิทธิภาพในการทำนายเท่ากับ 0.516 (R2 =52%) และการรับรู้คุณภาพของอาหารคลีนมี ความสัมพันธ์กับการรับรู้คุณค่าของอาหารคลีนโดยมีประสิทธิภาพในการทำนายเท่ากับ 0.50 (R2 =50%) ความตั้งใจซื้อซ้ำอาหารคลีนได้รับอิทธิพลทางตรงจากความพึงพอใจและปัจจัยทางสังคม โดยมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล เท่ากับ 0.383, 0.238 ตามลำดับ ในขณะที่การรับรู้คุณภาพของอาหารคลีนได้รับอิทธิพลทางตรงจากความคาดหวังของลูกค้าที่มีความสัมพันธ์กับปัจจัยทางสังคมโดยมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล เท่ากับ 0.684 และมีอิทธิพลทางอ้อมต่อการรับรู้คุณค่าอาหารคลีนผ่านการรับรู้คุณภาพอาหารคลีนโดยมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล เท่ากับ 0.463 นอกจากนี้ความพึงพอใจและความตั้งใจซื้อซ้ำอาหารคลีนยังได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากปัจจัยสังคม ความคาดหวังของลูกค้า การรับรู้คุณภาพอาหารคลีนส่งผ่านการรับรู้คุณค่าของอาหารคลีน โดยมีค่าสัมประสิทธิ์อิทธิพล 0.437 และ 0.210 ตามลำดับ มีประสิทธิภาพในการทำนายเท่ากับ 0.423 (R2 =42%) จากผลการวิจัยสะท้อนให้ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารคลีนต้องตระหนักในคุณภาพของวัตถุดิบที่ต้องสด ใหม่ สะอาด มีคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะก่อให้ลูกค้าเกิดความไม่พึงพอใจ เพื่อสร้างความสัมพันธ์เชิงบวกกับลูกค้าให้เกิดการซื้อซ้ำ

การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแรงจูงใจและภาวะผู้นำที่มีผลสัมฤทธิ์ต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในองค์กรยุค 4.0: กรณีศึกษา บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) โดยการทดสอบความสัมพันธ์ของปัจจัยมีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ใช้สถิติเปรียบเทียบความ แตกต่างค่าเฉลี่ย ซึ่งใช้ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) ได้จากการศึกษาค้นคว้า รวบรวมเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงแนวคิดทฤษฎีต่างๆ ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) ได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลจากพนักงาน บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) จำนวน 296 คน ที่ปฏิบัติงานในขณะการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยใช้แบบสอบถาม และใช้การวิเคราะห์สถิติ t-test (t-test for Independent Sample) และ One-Way ANOVA เปรียบเทียบความแตกต่างค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่าง โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ผลจากการศึกษาพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคลด้านสังกัดฝ่ายงานกับประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีสังกัดหน่วยงานแตกต่างกันมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยรวมแตกต่างกัน ส่วนด้านวุฒิการศึกษาและด้านระยะเวลาการทำงานแตกต่างกันมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยรวมไม่แตกต่างกัน การทดสอบปัจจัยแรงจูงใจและปัจจัยภาวะผู้นำ พบว่าทั้งแรงจูงใจและปัจจัยภาวะผู้นำในการปฏิบัติงานแตกต่างกันมีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานทุกด้าน ได้แก่ ด้านคุณภาพงาน ด้านปริมาณงาน ด้านวิธีการ และด้านค่าใช้จ่ายแตกต่าง

วารสารวิธีวิทยาการวิจัย (Journal of Research Methodology: JRM), 35, 2, 117-141

Journal of Family Business and Management Studies, 15, 1, 3-22

Journal of Family Business and Management Studies, 15, 1, 47-68

Journal of Dhamma for Life, 28, 2, 1 to 15

Journal of Dhamma for Life, 28, 3, 63-77

Journal of Dhamma for Life, 28, 3, 20-29

Journal of Dhamma for Life, 28, 4, 13-Jan

Journal of Dhamma for Life, 28, 1, 62-71

วารสารวิธีวิทยาการวิจัย (Journal of Research Methodology: JRM), 35, 1, 47-64

วารสารวิธีวิทยาการวิจัย (Journal of Research Methodology: JRM), 35, 1, 23-45

วารสารนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, ุ6, 1, 269-294

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมและความคาดหวังที่มีต่อการท่องเที่ยวทะเล ในภาคตะวันออก และเปรียบเทียบพฤติกรรมและความคาดหวังของนักท่องเที่ยวจำนวน 400 คน ใน 4 จังหวัด คือ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บ รวบรวมข้อมูล สถิติเชิงพรรณนาที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติเชิงอนุมานที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน คือ ไคสแควร์ (Chi – Square Test) และ F-Test ผลจากวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 21 – 30 ปี มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า สถานภาพโสด อาชีพพนักงานบริษัท มีรายได้ เฉลี่ยต่อเดือน 10,001 - 20,000 บาท และมีวัตถุประสงค์ในการเดินทางมาท่องเที่ยวหรือพักผ่อน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมากับครอบครัว โดยได้รับข้อมูลมาจากเพื่อนหรือญาติ ส่วนใหญ่จะ เดินทางมาท่องเที่ยวในวันเสาร์ - วันอาทิตย์ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สนใจมากที่สุด คือชายหาด และถ้ามีโอกาสจะมาท่องเที่ยวอีกครั้ง ผลการวิจัยด้านพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวพบว่า โดยภาพรวมนักท่องเที่ยวใน 4 จังหวัด มี ความแตกต่างกันในหลายประเด็น ประกอบด้วยวัตถุประสงค์ในการเดินทาง ผู้ร่วมเดินทาง การได้รับ ข้อมูลการท่องเที่ยว ช่วงเวลาที่เดินทาง และแหล่งท่องเที่ยวที่สนใจ ยกเว้นประเด็นการกลับมา ท่องเที่ยวอีกครั้งจะพบว่าไม่มีความแตกต่างกัน ส่วนผลการวิจัยด้านความคาดหวังของนักท่องเที่ยว พบว่า โดยภาพรวมนักท่องเที่ยวใน 4...

การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ตลาดกลาง หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยการทดสอบความสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ตลาดกลาง หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และทดสอบการเคลื่อนไหวของทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ตลาดกลาง หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งใช้ข้อมูลทุติยภูมิเป็นรายเดือน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2556 ถึง เดือนธันวาคม 2560 รวม 60 เดือน และใช้การวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ (Multiple Regressions) มาประมาณค่า สัมประสิทธิ์ของตัวแปรอิสระที่มีต่อตัวแปรตาม ด้วยวิธีกำลังสองน้อยที่สุด (Ordinary Least Squares : OLS) ซึ่งทำการศึกษาทั้งหมด 7 ปัจจัย ได้แก่ 1.ราคาน้ำมันดิบของโลก 2.อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินบาทกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา 3.ปริมาณการส่งออกยางพาราของประเทศไทย 4.มูลค่าการส่งออกยางพาราของประเทศไทย 5.ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ในตลาดล่วงหน้ากรุงเทพ (F.O.B) 6.ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศไทย 7.ปริมาณการผลิต รถยนต์ของโลกซึ่งการทดสอบตัวแปรเบื้องต้นก่อนทำการวิเคราะห์สมการถดถอยพหุคูณ พบว่าตัวแปรเกิดปัญหาสหสัมพันธ์ในตัวเอง (Autocorrelation) ดังนั้น เพื่อทำให้ค่าสัมประสิทธิ์ที่ประมาณค่าได้จากสมการ ถดถอยพหุคูณเกิดความน่าเชื่อถือ จะต้องทำการแก้ไขปัญหา Autocorrelation โดยการเพิ่มค่า Residual มาใช้ในการคำนวณ ซึ่งผลการคำนวนจะได้ค่า Durbin-Watson Stat = 1.89 ซึ่งอยู่ในช่วง 1.5 ถึง 2.5 แสดงว่าค่าความคลาดเคลื่อนแต่ละตัวแปรเป็นอิสระต่อกันไม่เกิดปัญหาสหสัมพันธ์ในตัวเอง (Autocorrelation) และทำให้ค่าสัมประสิทธิ์ที่ประมาณค่าได้จากสมการถดถอยมีความ น่าเชื่อถือ ผลจากการศึกษาพบว่า ปัจจัยในแบบจำลองนี้สามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงราคายาง...

วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 1, 1, 39-52

Chiang Mai Dental Journal, 44, 1, 37-45